เสื้อสตรีมุสลิม ชุดเครื่องแต่งการมุสลิมะห์ตามหลักอิสลาม
เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายสตรีมุสลิมการปกปิดอวัยวะพึงสงวน (เอาเราะฮฺ) สำหรับสตรีมุสลิมะฮฺนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็น (วาญิบ) ตามหลักการของศาสนา ทั้งนี้เพราะมีบัญญัติเอาไว้ในคัมภีร์อัลกุรอ่านและซุนนะฮฺของท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เมื่อถือเป็นสิ่งจำเป็น (วาญิบ) สตรีผู้ที่ปฏิบัติตามหลักการและเงี่อนไขที่ศาสนากำหนดเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ก็ย่อมถือเป็นสิ่งที่มีผลบุญสำหรับผู้ปฏิบัตินั้น ในขณะที่การละทิ้งสิ่งที่จำเป็นนี้ หรือกระทำอย่างบกพร่องไม่สอดคล้องกับหลักการและเงื่อนไขที่ศาสนากำหนดเอาไว้ สตรีผู้นั้นย่อมมีโทษมีบาป
บรรดาปวงปราชญ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าการปกปิดอวัยวะพึงสงวน (เอาเราะฮฺ) สำหรับสตรีมุสลิม ที่บรรลุศาสนภาวะแล้วนั้นคือการปกปิดร่างกายของนางทั้งหมดโดยอนุโลมให้เปิดเผยได้เฉพาะในส่วนของใบหน้าและฝ่ามือทั้งสองเท่านั้น ทั้งนี้ในกรณีอยู่ต่อหน้าบุคคลที่มิใช่ผู้ที่ห้ามแต่งงานด้วย (มะฮฺร็อม) การปกปิดร่างกายจึงมิได้หมายถึงการคลุมผมด้วยผ้าฮิญาบเท่านั้นแต่ะจะต้องปกปิดเรือนร่างในส่วนอื่นที่เป็นเอาเราะฮฺด้วย เช่น แขนทั้งสองข้าง ขาและเท้า เป็นต้น และชุดแต่งกายของมุสลิม นั้นต้องเป็นชุดที่ปกปิดสีผิวของเนื้อหนังมังสาและไม่เผยให้เห็นรูปทรงส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนร่าง กล่าวคือ เสื้อผ้าสตรีมุสลิม ต้องไม่ฟิตไม่รัดรูป ตลอดจนสีสันของชุดแต่งกายก็ไม่ควรมีสีสันฉูดฉาดจนเป็นที่ดึงดูดและสนใจสำหรับเพศตรงกันข้าม นี่คือหลักการพื้นฐานในการแต่งกายและการปกปิดอวัยวะพึงสงวนสำหรับสตรีมุสลิม
ซึ่งเมื่อนางได้ปกปิดเรือนร่างของนางอย่างมิดชิดตามที่ศาสนากำหนด นางก็จะไม่ตกเป็นเป้าทางสายตาที่หื่นจากผู้ชายที่หมกมุ่นในเรื่องทางเพศ ไม่ตกเป็นเหยื่อของการคุกคามและการล่วงละเมิดทางเพศอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ อีกทั้งการปกปิดเรือนร่างอย่างมิดชิดยังเป็นการรักษาไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศของเพศหญิงที่ใครจะมาล่วงละเมิดมิได้ กอปรกับนักจิตวิทยาได้วิจัยและพบว่าผู้ชายมักคิดสิ่งต่าง ๆ เป็นภาพ การปกปิดเรือนร่างของสตรีจึงเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เป็นการป้องกันมิให้พวกผู้ชายคิดจินตนาการภาพเบื้องหน้าที่เห็นไปตามอารมณ์ซึ่งมักจะก่อให้เกิดอารมณ์กำหนัดทางเพศตามมา
สตรีมุสลิม มุสลิมมะฮฺ ที่ปกปิดเรือนร่างของนางอย่างมิดชิดจึงเป็นสตรีที่รักตัวเองและคำนึงถึงเกียรติยศและศักดิ์ศรีของนาง ตลอดจนมีคุณค่าและไม่ตกเป็นของเล่นหรือเหยื่อทางอารมณ์ของผู้ชาย ดังนั้นการปกปิดเอาเราะฮฺเพียงบางส่วน หรือการคลุมฮิญาบแต่ใส่เสื้อแขนสั้น หรือคลุมฮิญาบแล้วใส่กระโปรงยาวแต่ผ่าขึ้นมาจนถึงน่องหรือหัวเข่า หรือ สวมฮิญาบแต่ใส่ชุดแต่งกายที่ฟิตและรัดรูปเห็นบั้นท้าย เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกาย หรือ ปกปิดร่างกายด้วยเสื้อผ้าที่บางจนเห็นสีผิว เป็นต้น
ทั้งหมดที่ว่ามานี้เป็นการปกปิดเรือนร่างที่ยังบกพร่องและไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ศาสนากำหนดเอาไว้ มุสลิมะฮฺที่แต่งกายดังที่ว่ามาคงจัดอยู่ในประเภทที่ “เกือบจะดี” แต่ “ยังไม่ดีพอ” ฉะนั้นเมื่อจะแต่งกายตามแบบฉบับของมุสลิมะฮฺที่ดีก็ต้องมีความพิถีพิถันและให้ความใส่ใจในองค์ประกอบของการแต่งกายตามหลักการของศาสนาให้ครบถ้วน เพราะถ้ากระทำไม่ครบถ้วนตามหลักการก็ย่อมถือว่าบกพร่องและจะมีบาปเกิดขึ้นได้ การแต่งกายอย่างมิดชิดตามหลักการของศาสนามิใช่เรื่องยาก ไม่ใช่เรื่องลำบากแต่อย่างใดเลย และก็สวยงามดูดีอีกด้วย ส่วนการแต่งกายตามแฟชั่น ตามความนิยมในสังคม หรือตามประเพณีที่เคยชิน เช่น คลุมฮิญาบแต่ใส่เสื้อแขนสั้น นุ่งกางเกงฟิตเปรี๊ยะ เป็นสิ่งที่ลำบากยิ่งกว่า เพราะเอาอารมณ์ ความรู้สึก และสายตาของผู้คนเป็นเกณฑ์ ซึ่งหาที่สุดมิได้ หาความพอดีได้ยาก แต่ถ้าแต่งกายตามหลักการของศาสนาก็จะเป็นที่พอใจทั้งสายตาของมนุษย์และในสายพระเนตรของพระองค์อัลลอฮฺ (ซ.บ.) เรียกได้ว่า มีแต่ดีกับดี ไม่มีเสีย ลองคิดดู!
รูปตัวอย่างรูปแบบเครื่องแต่งกายมุสลิมะฮิ เสื้อสตรีมุสลิม
แหล่งข้อมูล : alisuasaming.com
ขอขอบคุณ เสื้อสตรีมุสลิมจาก :thehalalexpress.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น